เทคนิค การเลือกซื้อ แบตสำรอง ดูยังไง ไม่ให้พลาด

เทคนิค การเลือกซื้อ แบตสำรอง ดูยังไง ไม่ให้พลาด

คุณกำลังมองหา แบตสำรอง สักตัวอยู่ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้ออยากให้ลองอ่านบทความนี้ซะก่อน การซื้อแบตสำรองนี้ เมื่อต้องเทียบกับเงินในกระเป๋าที่เราต้องจ่ายไป หลักร้อยถึงหลักพัน ก็ถือว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อยทีเดียว สำหรับการจ่ายครั้งเดียวให้คุ้ม เพราะถ้าคุณไม่อยากซื้อ ที่ชาร์ตแบตสำรอง มาแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ แล้วมาเสียใจทีหลัง ก็ไม่ทันการ มีแต่จะต้องควักตังค์ซื้อใหม่เท่านั้น ซึ่งบทความนี้จะแนะเทคนิค เกี่ยวกับการเลือกซื้อ ว่าคุณต้องดูอะไรบ้าง ก่อนจะเลือกซื้อแบตสำรองสักตัว เลือกอย่างไรให้ได้ดี มาดูกัน

1. ความจุที่คุณต้องการ

สิ่งแรกที่คุณต้องรู้ก่อนเลยก็คือ ต้องการ แบตสำรอง ความจุ มากขนาดไหน ความจุมีหน่วยวัดเป็น มิลลิแอมป์ หรือที่เราเห็นเป็นตัวย่อว่า mAh นั่นเอง และต้องตรวจสอบมือถือของคุณด้วย ว่ามีความจุแบตเท่าไหร่ จะได้รู้ว่าคุณควรซื้อแบตสำรองแบบไหน นั่นเอง  สำหรับอุปกรณ์มือถือ ที่คนส่วนใหญ่ใช้กันบ่อยๆ จะยกตัวอย่างให้ดู เช่น  สำหรับ Iphone5 จะมีแบตอยู่ ขนาด 1800 mAh ซึ่งหากคุณต้องการ ที่ชาร์ตแบตสำรอง ที่วันหนึ่งชาร์ตได้อย่างน้อยๆ 2 ครั้ง ก็  1800*2=3600 mAh นี่คือความจุที่เหมาะกับคุณ แต่ยังไม่หมดแค่นี้ สิ่งที่คุณต้องรู้ เป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ การชาร์ตแบต นั่นก็คือ ค่าการสูญเสียเกิดจากการเปลี่ยนพลังงาน หมายถึง ช่วงที่คุณนำ แบตสำรอง ทำการชาร์ตกับอุปกรณ์ต่างๆนั้น ไม่ว่าจะชาร์ตกับไฟบ้าน หรือมือถือก็ตาม จะเกิดการสูญเสียพลังงานได้ อาจจะเสียไปสักประมาณ 10-20% ดังนั้น สมมุติว่า คุณจะเลือกซื้อ แบตสำรอง สักตัวควรจะเลือกค่า mAh ที่เผื่อไว้สักหน่อย หรือมากกว่า 3600 mAh ดีกว่า

2. เลือกเสปคที่ Powerbank คุณสนใจ

สำหรับส่วนนี้จะคล้ายๆกับข้อหนึ่ง ก็คือ ในตลาดส่วนใหญ่ ความจุแบตสำรอง นั้นมีมากมาย เริ่มตั้งแต่ 1200-20000 mAh ซึ่งการเลือกใช้ ต้องเลือกตามความต้องการของมือถือนั้นๆด้วย

3. รู้จักประเภทของแบต

รู้หรือไม่ว่า แบตเตอรี่ ที่ใช้ๆกันนั้น มีจำแนกไว้ราวๆ 5 ประเภท ได้แก่ Lithium Ion เป็นแบตที่มีลักษณะแบบก้อนแบนๆ, Lithium Polymer เป็นก้อนคล้ายๆ ion แต่ใช้เซลส์ Polymer, 8650 จะเป็นแบตลักษณะแบบแท่งกลมยาว เหมือนถ่านอัลคาไลน์ แต่ถูกผลิตมาสำหรับทำ แบตสำรองเท่านั้น, Rechargeable Alcaline แบตแบบขนาด AA / AAA ที่เห็นได้ทั่วไป ใช้งานทั่วไป เป็นแบตคุณภาพต่ำสุด แลราคาถูกสุด, และสุดท้าย แบตขนาดลักษณะอื่นๆ อาทิ เช่น แบตกล้องถ่ายรูป และถ่ายวิดีโอ ซึ่งจะไม่นิยมเอามาทำ Power Bank นั่นเองค่ะ

4. ต้องดูค่า Input/Output ให้เป็น

คุณเคยสังเกตุดูรายละเอียดในตัว แบตสำรอง หรือไม่ ด้านหลัง ที่ส่วนใหญ่จะมีการบอกรายละเอียดค่าเหล่านี้ไว้อยู่ หลายคนไม่รู้จักว่ามันคืออะไรด้วยซ้ำ และไม่เคยสนใจ ซึ่งต้องบอกเลยว่า ค่า Output ก็คือ ค่าความจุกำลังไฟของตัวไฟที่ชาร์ทเข้าแบตสำรอง สำคัญมากกว่าค่า Input เสียอีก ซึ่ง หมายถึง ค่ากำลังไฟ ของแบตสำรอง ที่เราชาร์ตเข้าไปนั้น มีค่าเท่าไหร่ กี่มิลลิแอมป์ ต่อวันนั่นเอง

ซึ่งนี่ก็เป็นเพียงเทคนิคเบื้องต้น แต่รับรองได้ผลดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหา หรือเลือกซื้อ แบตสำรอง สักตัว ต้องดูอะไรบ้าง และสุดท้ายนี้ จะซื้อของดีทั้งที อย่าลืมเลือกสินค้า ที่มีการรับประกัน หรือบริการหลังการขายที่ดีด้วยนะค่ะ